ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้ามีอะไรบ้าง เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม

ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้ามีอะไรบ้าง เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม

ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้ามีอะไรบ้าง เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม

การจัดการโกดังและคลังสินค้าในยุคปัจจุบันไม่ใช่เพียงเรื่องของการจัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในโกดังสินค้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย เช่น การโจรกรรม การบุกรุก อัคคีภัย หรือแม้แต่อุบัติเหตุ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญแก่ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้า เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันทรัพย์สินและบุคลากร พร้อมช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน พาร์ทเนอร์ธุรกิจ และลูกค้าอย่างยั่งยืน

ในบทความนี้ LIV-24 จะมาอธิบายถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในโกดังสินค้า ระบบรักษาความปลอดภัยพื้นฐานที่โกดังหรือคลังสินค้าควรมี พร้อมแนะนำเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยยุคใหม่ที่เหมาะจะนำไปประยุกต์ใช้กับโกดังและอาคารประเภทต่างๆ

ความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในโกดังสินค้า

โกดังและคลังสินค้าเป็นสถานที่เก็บทรัพย์สินมูลค่าสูง รวมถึงเป็นสถานที่ทำงานของพนักงานจำนวนมาก ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม อุบัติเหตุจากการใช้เครื่องจักร หรือแม้กระทั่งการบุกรุกของบุคคลไม่หวังดี ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยคลังสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ปกป้องชีวิตและสุขภาพของพนักงาน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คลังสินค้าเต็มไปด้วยความเสี่ยงจากอุบัติเหตุต่างๆ ต่อพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการพลัดตกจากที่สูง สินค้าขนาดใหญ่หล่นทับ หรือการบาดเจ็บจากการใช้อุปกรณ์ขนย้ายสิ่งของ ซึ่งการจัดการความปลอดภัยคลังสินค้าอย่างเป็นระบบระเบียบสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเหล่านี้ได้ ช่วยป้องกันพนักงานจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ทำให้บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

2. ป้องกันความเสียหายต่อสินค้าและทรัพย์สิน

การป้องกันโจรกรรมในโกดังเป็นประเด็นที่เจ้าของธุรกิจต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง เพราะการสูญเสียสินค้าไม่เพียงส่งผลกระทบทางการเงิน แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้าและภาพลักษณ์องค์กรอีกด้วย นอกจากการโจรกรรมแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่สินค้าจะเกิดความเสียหายจากการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม หรือเหตุอัคคีภัยที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงได้

3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ

คลังสินค้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ทำให้ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจเกิดความเชื่อมั่น ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจและโอกาสในการเติบโตขององค์กรในอนาคต

4. หลีกเลี่ยงค่าปรับและการฟ้องร้อง

การดำเนินงานโกดังสินค้าจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายควบคุมอาคาร หรือกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เป็นต้น การละเลยมาตรฐานความปลอดภัยอาจนำไปสู่ค่าปรับจำนวนมาก หรือแม้แต่การฟ้องร้องหากเกิดอุบัติเหตุจนก่อให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สิน การลงทุนในมาตรฐานความปลอดภัยจึงเป็นส่วนสำคัญในการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้ามีอะไรบ้าง เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม

5 ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่คลังสินค้าควรมี

การจัดวางการรักษาความปลอดภัยในโกดังสินค้าที่มีมาตรฐานจำเป็นต้องใช้งานระบบและอุปกรณ์หลากหลาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงในด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม

1. ระบบควบคุมการเข้าออก 

ระบบควบคุมการเข้าออก หรือ Access Control ถือเป็นหนึ่งระบบที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมผู้ที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ภายในโกดัง ระบบนี้ไม่เพียงป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ แต่ยังสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของพนักงานแต่ละระดับได้อย่างเหมาะสม

คลังสินค้าที่ดีควรมีระบบรักษาความปลอดภัยอาคารที่ควบคุมการเข้า-ออกที่รัดกุม ซึ่งไม่ใช่แค่ล็อกประตูโกดังสินค้าหรือไม้กั้นรถยนต์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรมีระบบที่มีคุณสมบัติตรวจสอบและบันทึกข้อมูลการเข้า-ออก โดยอาจนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น บัตร RFID เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ระบบจดจำใบหน้า หรือรหัสผ่านเฉพาะสำหรับพนักงานแต่ละคน

2. การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และการฝึกอบรมพนักงาน

การทำงานภายในคลังสินค้าหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยง องค์กรควรให้พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่จำเป็น ประกอบด้วย หมวกนิรภัย รองเท้าเซฟตี้ ถุงมือ แว่นตานิรภัย ที่อุดหู หน้ากากป้องกัน และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ต้องมีการฝึกซ้อมรับมือเหตุฉุกเฉินอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

high view safety construction gloves medical mask

นอกจากอุปกรณ์ป้องกันแล้ว องค์กรควรจัดทำการฝึกอบรมพนักงานให้ครอบคลุมประเด็นด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น  

  • การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างถูกต้อง 
  • ขั้นตอนการอพยพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 
  • การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น 
  • การจัดเรียงและเก็บสินค้าอย่างปลอดภัย
  • ไปจนถึงการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรอย่างถูกต้อง

3. ระบบกล้องวงจรปิด

ปัจจุบันกล้อง CCTV เป็นหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัยพื้นฐานที่ทุกๆ อาคารสถานที่ขาดไปไม่ได้ ซึ่งช่วยในการตรวจสอบบุคคลน่าสงสัยที่บุกรุกเข้ามาในบริเวณพื้นที่โกดัง รวมถึงช่วยให้ตรวจสอบการทำงานของพนักงาน และเฝ้าระวังพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ และหากเกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ยังสามารถตรวจสอบบันทึกภาพย้อนหลังได้อีกด้วย โดยในการติดตั้งกล้องวงจรปิด ควรเลือกติดตั้งให้ครอบคลุมทุกจุดสำคัญ ทั้งบริเวณประตูทางเข้า-ออก ห้องเซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บสินค้ามูลค่าสูง และจุดขนถ่ายสินค้า เป็นต้น

คุณสมบัติของกล้อง CCTV สมัยใหม่

  • ความคมชัดสูง (HD/4K) เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ชัดเจน
  • การมองเห็นภาพในที่มืด (Night Vision)
  • การตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Detection)
  • การเชื่อมต่อระบบออนไลน์หรือระบบ BAS สำหรับดูภาพบันทึกเหตุการณ์จากระยะไกล

4. ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้

จากสถิติอุบัติเหตุในโรงงานปี 2567 โดยกรมโรงานอุตสาหกรรมพบว่า อุบัติเหตุในโรงงาน 75% มีสาเหตุมาจากอัคคีภัย โดย โรงงานทั่วไป (งานซ่อม งานโลหะ หล่อหลอม โกดังเก็บสินค้า โรงไฟฟ้า งานผลิตเครื่องยนต์) จัดว่าเป็นประเภทโรงงานที่เกิดอัคคีภัยบ่อยที่สุด[1] นอกจากนี้ ไฟไหม้ยังสร้างความเสียหายปริมาณมากในเวลาอันรวดเร็ว ระบบรักษาความปลอดภัยในโกดังสินค้าจึงต้องรวมถึงระบบตรวจจับและเตือนภัยไฟไหม้หรือ Fire Alarm ที่มีประสิทธิภาพ

ระบบ Fire Alarm โดยทั่วไปประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น

  • Smoke Detector – อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟที่ทำงานผ่านหลักการ Ionization หรือ Photoelectric
  • Heat Detector – เครื่องตรวจจับความร้อนที่ผิดปกติ
  • Manual Call Point – อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ
  • Fire Alarm Panel – แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
  • Warning Device – อุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือน (เสียง/แสง)

สำหรับโรงงานและคลังสินค้า ควรติดตั้งระบบ Fire Alram ที่มีอุปกรณ์ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจจับไปจนถึงการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุ เพื่อให้บุคลากรและผู้ที่อยู่ภายในโกดังสามารถอพยพได้ทันท่วงที และเจ้าหน้าที่สามารถเข้าระงับเหตุได้ทันเวลา ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ

5. การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์

อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นรถโฟล์กลิฟต์ ชั้นวางสินค้า สายพานลำเลียง หรือแม้แต่บันได ล้วนมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุหากไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม โดยควรมีจัดทำตารางการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ทุกชิ้นอย่างสม่ำเสมอ มีการบันทึกประวัติการซ่อมบำรุง และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพก่อนที่จะเกิดความเสียหายหรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้งาน 

แนะนำเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยยุคใหม่สำหรับโกดังสินค้า

เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันได้มีโซลูชันและนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น โดย LIV-24 เป็นหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ความปลอดภัยดั้งเดิมและเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยใหม่ๆ มอบความปลอดภัยและอุ่นใจแก่ธุรกิจโกดังสินค้าและอาคารประเภทต่างๆ 

LIV1

โซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยอาคารจาก LIV-24 สามารถนำมาปรับใช้กับโกดังสินค้าได้หลายประการ เช่น

1. AI CCTV Analytic และ Fall Detection

LIV-24 ได้นำเทคโนโลยี AI หรือ Artificial Intelligence เข้ามาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะกล้อง CCTV ทำให้สามารถวิเคราะห์และตรวจจับความเหตุการณ์ผิดปกติได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับบุคคลน่าสงสัย การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ การตรวจจับควันไฟในระยะเริ่มต้น หรือแม้แต่การเกิดอุบัติเหตุในโกดังสินค้าอย่างการลื่นล้มและสิ่งของตกหล่นจากที่สูงซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อย ด้วยระบบ Fall Detection ที่อาศัย Motion Sensor ตรวจจับพนักงานลื่นล้มหรือเกิดอุบัติเหตุได้แบบ Real-Time 

2. Motion Sensor และ Digital Fence

เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ถูกมาประยุกต์เพื่อตรวจจับความผิดปกติรอบรั้วของพื้นที่ โดยสามารถตรวจจับได้ทั้งความเคลื่อนไหวและอุณหภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตที่อาจเป็นอันตราย และผู้บุกรุกตามแนวรั้ว พร้อมแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

3. Access Control และ License Plate Recognition

LIV-24 ได้เพิ่มระดับความสามารถในการควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ ด้วยการนำระบบสแกนใบหน้า (Face Scan) มาใช้กับ Access Control เพื่อปลดล็อกประตูให้เฉพาะพนักงานและผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าโกดังสินค้าเท่านั้น อีกทั้งยังต่อยอดไปถึงระบบ License Plate Recognition (LPR) ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะที่ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทำงานร่วมกับประตูอัตโนมัติหรือระบบไม้กั้นรถยนต์ ซึ่งพบว่า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การสแกนเข้า-ออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม

4. Visitor Management System

ระบบจัดการผู้มาติดต่อแบบดิจิทัลที่ทันสมัย ช่วยสร้างความปลอดภัยและความสะดวกรวดเร็วในการจัดการผู้มาติดต่อเข้าพื้นที่อย่างเป็นระบบ โดยสามารถลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า (Pre-Register) เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ต้องแลกบัตรประชาชน สามารถตรวจสอบตัวตนได้ง่าย รวมถึงมีระบบคำนวณค่าจอดรถที่เชื่อมต่อกับระบบ Online Payment อีกด้วย

5. ระบบ BAS และ IoT Monitoring System

LIV-24 ได้พัฒนา IoT Management System ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบระบบ BAS ที่สามารถการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ Command Centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้ สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบในโกดังสินค้า

จากที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถพูดได้ว่า ระบบความปลอดภัยในโกดังสินค้าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการปกป้องทรัพย์สิน สินค้า และบุคลากรของตน ซึ่งการออกแบบเลือกใช้เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยอาคารที่ครอบคลุม และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้โกดังสินค้ามีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Pic

การมีความปลอดภัยคลังสินค้าที่ดีไม่ได้เป็นเพียงการป้องกันความเสียหาย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่พนักงาน ลูกค้า ไปจนถึงผู้ถือหุ้น การลงทุนในการป้องกันโจรกรรมในโกดังและระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

ยกระดับความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะจาก LIV-24

ในฐานะผู้นำและคิดค้นเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ LIV-24 พร้อมยกระดับความปลอดภัยของพื้นที่ โครงการ และสถานที่สำคัญต่างๆ ให้มากกว่าที่เคย ด้วยโซลูชันเหนือระดับและฟังก์ชันที่ครอบคลุมมากกว่าการรักษาความปลอดภัย พร้อมช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ติดตั้ง เฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงการดูแลซ่อมแซมระบบตลอดการใช้งาน โดยมีบริการด้านความปลอดภัยหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของธุรกิจ ดังนี้

  • AI CCTV Analytic และ Fall Detection – กล้อง CCTV อัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์มีพิษ อุบัติเหตุพลัดตกล้มหกล้ม ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
  • License Plate Recognition (LPR) – ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะที่ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทำงานร่วมกับประตูอัตโนมัติหรือไม้กั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การสแกนเข้าออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม
  • Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ. 
  • Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
  • Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตู และ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้
  • Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ไม่มีหยุดพัก

อีกทั้ง LIV-24 ยังพัฒนาเทคโนโลยี IoT Management System ใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ Command Centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ 

Activate you security

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่

แชร์ข่าวและบทความ
Rectangle 9437

ข่าวและบทความที่น่าสนใจ

To top
Interested in our solutions?
Feel Free to download
E-brochure

"*" indicates required fields

This field is for validation purposes and should be left unchanged.