ระบบไม้กั้นรถยนต์ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ที่ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่อีกด้วย โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีการสัญจรของยานพาหนะเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน เช่น หมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม หรืออาคารสำนักงาน
ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม้กั้นรถเข้าออกจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องกีดขวางธรรมดา แต่ได้พัฒนาเป็นระบบอัจฉริยะที่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างครบวงจร
ระบบไม้กั้นรถยนต์คืออะไร
ระบบไม้กั้นรถยนต์ คือ ระบบควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะในพื้นที่ต่างๆ โดยใช้แขนไม้กั้นที่สามารถยกขึ้น-ลงได้ เพื่อควบคุมการผ่านเข้า-ออกของรถยนต์ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการบริหารจัดการพื้นที่
โดยทั่วไประบบไม้กั้นรถยนต์ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลายส่วน ได้แก่
- ตัวไม้กั้นหรือแขนกั้น – ส่วนใหญ่ทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนทาน โดยอาจมีความยาวตั้งแต่ 3 – 6 เมตร ขึ้นอยู่กับความกว้างของช่องทางเดินรถที่ต้องการควบคุม
- ตู้ควบคุม – เป็นส่วนที่บรรจุมอเตอร์และอุปกรณ์ควบคุมการทำงานของไม้กั้น โดยภายในจะมีมอเตอร์ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการยกแขนไม้กั้นขึ้น-ลง
- ระบบเซนเซอร์ – ประกอบด้วย Loop Detector เพื่อตรวจจับรถยนต์ และ Photo Sensor เพื่อป้องกันไม้กั้นตีรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
- อุปกรณ์ควบคุมการเข้า-ออก – อาจมีได้หลายรูปแบบ เช่น ปุ่มกด รีโมทคอนโทรล เครื่องอ่านบัตร หรืออาจเป็นระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติก็ได้
ระบบไม้กั้นรถเข้าออก สามารถเชื่อมต่อกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น กล้อง CCTV ระบบจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management System) และระบบ Access Control เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย ทำให้การควบคุมและบริหารจัดการพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของระบบไม้กั้นรถยนต์
![[LIV 24] SEO FEB C02 1 1200x628](https://liv-24.com/wp-content/uploads/2025/03/LIV-24-SEO-FEB-C02-1_1200x628.jpg)
การติดตั้ง ระบบไม้กั้นรถยนต์ มีข้อดีหลายประการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่และยกระดับความปลอดภัย ดังนี้
1. ยกระดับความปลอดภัย
ข้อดีสำคัญของระบบไม้กั้นรถยนต์ คือ ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทำให้รปภ. หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คัดกรองและตรวจสอบบุคคลที่เข้า-ออกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการบุกรุกของบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัย อื่นๆ เช่น กล้อง CCTV หรือระบบบันทึกข้อมูล จะยิ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้พื้นที่มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ทันสมัยของระบบไม้กั้นรถยนต์ช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของรถยนต์ได้อย่างละเอียด ทั้งเวลา ทะเบียนรถ ภาพรถ และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การโจรกรรม หรืออุบัติเหตุ
2. เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออก
ระบบไม้กั้นรถยนต์ที่ทันสมัย ช่วยให้การเข้า-ออกของรถยนต์เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นระเบียบ โดยเฉพาะในระบบที่มีการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบ Easy Pass หรือระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ที่สามารถตรวจสอบและอนุญาตให้รถยนต์เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องหยุดรถหรือลดกระจกลง นอกจากนี้ยังช่วยบริหารจัดการการจราจรภายในพื้นที่ให้เป็นระเบียบ ลดความแออัดและความล่าช้าในการเข้า-ออกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีปริมาณรถยนต์เข้า-ออกจำนวนมาก
3. คลายความกังวลต่อบุคคลภายนอก
การติดตั้ง ระบบไม้กั้นรถยนต์ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้พื้นที่รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้น เนื่องจากมีการคัดกรองและควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลภายนอกอย่างเข้มงวด ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่างๆ เมื่อเชื่อมต่อกับระบบ Access Control หรือระบบจัดการผู้มาติดต่อ จะช่วยให้การควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลภายนอกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถบันทึกข้อมูลและตรวจสอบย้อนหลังได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
4. ประหยัดต้นทุนในระยะยาว
แม้ว่าการติดตั้งระบบไม้กั้นรถยนต์จะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้นที่ต้องพิจารณา แต่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเพื่อควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมหรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งอาจมีมูลค่าสูง ทำให้การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
ประเภทของระบบไม้กั้นรถยนต์
ระบบไม้กั้นรถยนต์สามารถแบ่งได้หลายประเภท ตามลักษณะการทำงานและเทคโนโลยีที่ใช้ โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ระบบ Tap & Go
ระบบนี้ใช้บัตรผ่าน (Proximity Card หรือ RFID Card) ในการควบคุมการเข้า-ออกของรถยนต์ โดยผู้ใช้งานจะต้องทาบบัตรที่เครื่องอ่านบัตรเพื่อให้ไม้กั้นเปิดขึ้น ซึ่งมีระยะการอ่านบัตรตั้งแต่ 30 – 100 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรที่ใช้
ข้อดีของระบบนี้คือ มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากต้องใช้บัตรเฉพาะบุคคลในการเข้า-ออกพื้นที่ และสามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกได้อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือผู้ใช้งานต้องลดกระจกลงมาเพื่อทาบบัตร ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางสถานการณ์ เช่น ในวันที่ฝนตก
![[LIV 24] SEO FEB C02 2 1200x628](https://liv-24.com/wp-content/uploads/2025/03/LIV-24-SEO-FEB-C02-2_1200x628.jpg)
2. ระบบ Easy Pass
ระบบนี้ใช้เทคโนโลยีบลูทูธ (Bluetooth) หรือคลื่นวิทยุความถี่สูง (RFID) ในการอ่านบัตรหรือแท็กที่ติดอยู่กับรถยนต์ในระยะไกล โดยไม่ต้องทาบบัตรที่เครื่องอ่าน ซึ่งมีระยะการอ่านบัตรได้ไกลถึง 15 เมตร และสามารถอ่านผ่านกระจกรถยนต์ได้โดยไม่ต้องลดกระจกลงมา จึงมอบความสะดวกสบายในการเข้า-ออกพื้นที่ โดยผู้ใช้งานไม่ต้องหยุดรถหรือลดกระจกลงมา ช่วยให้การเข้า-ออกพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ติดขัด แต่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในรถยนต์ของผู้ใช้งานทุกคัน
3. ระบบ LPR (License Plate Recognition)
ระบบไม้กั้นอ่านป้ายทะเบียน หรือ LPR ใช้กล้องพิเศษและซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ เพื่ออ่านและบันทึกป้ายทะเบียนรถยนต์โดยอัตโนมัติ เมื่อรถยนต์ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบเข้ามา กล้องจะอ่านป้ายทะเบียนและสั่งให้ไม้กั้นเปิดโดยอัตโนมัติ
ระบบ LPR ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพกบัตรหรือติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในรถยนต์ เพียงแค่ลงทะเบียนป้ายทะเบียนรถยนต์ในระบบเท่านั้น ช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการเข้า-ออกพื้นที่ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของรถยนต์ได้อย่างละเอียด และสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์หรือตรวจสอบย้อนหลังได้
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการอ่านป้ายทะเบียนได้พัฒนามากขึ้น มีคุณสมบัติในการอ่านป้ายทะเบียนได้แม่นยำ แม้ในสภาที่แสงน้อย หรือในช่วงเวลากลางคืน ทำให้เป็นระบบ LPR ที่ทันสมัยอย่างระบบที่พัฒนาโดย LIV-24 ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
ระบบไม้กั้นรถยนต์ LIV-24 LPR ควบคุมทางเข้า-ออกพื้นที่อัจฉริยะ
LIV-24 ได้พัฒนาระบบไม้กั้นรถยนต์อัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี LPR (License Plate Recognition) ในการควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทั้งยังทำงานร่วมกับกล้อง CCTV อัจฉริยะที่สามารถอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แม้ในสภาพแสงที่ไม่เหมาะสมหรือในเวลากลางคืน โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงวินาทีในการตรวจสอบและประมวลผล ทำให้การเข้า-ออกพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ติดขัด

- LIV-24 LPR ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบเดิมอย่าง Key Card หรือ RFID เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้บัตรหรืออุปกรณ์เสริมในการเข้า-ออกพื้นที่ เพียงแค่ลงทะเบียนป้ายทะเบียนรถยนต์ในระบบเท่านั้น
- LIV-24 LPR ทำงานร่วมกับ Visitor Management System (VMS) ซึ่งเป็นระบบจัดการผู้มาติดต่อแบบดิจิทัล ที่ช่วยในการลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า (Pre-Register) ทำให้ผู้มาติดต่อสามารถเข้า-ออกพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องแลกบัตรประชาชนหรือผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยาก
- LIV-24 LPR มีความสามารถในการบันทึกภาพรอบยานพาหนะโดยอัตโนมัติเมื่อเข้า-ออกพื้นที่ พร้อมบันทึกวันที่และเวลา ทำให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด และยังสามารถสร้างรายงานการเข้า-ออกได้อย่างอัตโนมัติตามรูปแบบที่ต้องการ
เมื่อเชื่อมต่อกับ LIV-24 Command Centre ระบบ LPR จะสามารถเฝ้าระวังและแจ้งเตือนแบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบความผิดปกติ เช่น บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตพยายามเข้าพื้นที่ หรือมีการใช้ป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพื้นที่มากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง LIV-24 ยังพัฒนาเทคโนโลยี IoT Monitoring System ใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ Command Centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ
LIV-24 ยังเป็นผู้นำด้านโซลูชันความปลอดภัยแบบรอบด้าน ช่วยจัดการความเสี่ยงในอาคารและโครงการหลากหลายรูปแบบ ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ท โชวร์รูม ไปจนถึงคลังเก็บสินค้า และอื่นๆ โดยสามารถออกแบบให้เหมาะได้กับทุกพื้นที่ ทำงานตลอด 24/7 ช่วยลด Human Error เพื่อความปลอดภัยครบวงจร เช่น
- AI CCTV Analytic และ Motion Sensor – กล้อง CCTV อัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์ ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
- Digital Fence – เซนเซอร์ตรวจจับความผิดปกติรอบรั้วของพื้นที่ แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวตามแนวรั้ว
- Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ.
- Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
- Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลอดล็อกประตูและ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้
- Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่