
ในการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ ทั้งในหมู่บ้าน โรงงาน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงสถานประกอบการต่างๆ ล้วนต้องมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยหลายรูปแบบ เช่น ล็อกประตู รั้วล้อมรอบพื้นที่ กำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) และระบบสำคัญอย่าง กล้องวงจรปิด CCTV ที่ช่วยสอดส่องจุดต่างๆ แทนมนุษย์
โดยบทความนี้จะมาเจาะลึกว่า CCTV คืออะไร มีกี่ประเภท ทำงานอย่างไร ประโยชน์ของกล้อง CCTV ต่อธุรกิจ พร้อมแนะนำให้รู้จักกับ AI CCTV Analytic ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีความปลอดภัย LIV-24 Solution
CCTV คืออะไร ?
CCTV ย่อมาจาก Closed Circuit Television แปลว่าโทรทัศน์วงจรปิด โดยมีการใช้กล้องวิดีโอเพื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหว เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่เดิมระบบกล้อง CCTV นั้นเป็นระบบที่ใช้ภายใน (Closed Circuit) โดยประกอบไปด้วย กล้อง สายนำสัญญาณ (Signal Cable) เครื่องบันทึกภาพ เช่น DVR, NVR หรือ XVR และจอมอนิเตอร์ที่รวมอยู่ภายในสถานที่นั้นๆ กล่าวคือ ไม่มีการเชื่อมต่อไปสู่ระบบเครือข่ายภายนอก จึงกลายเป็นชื่อ “กล้องวงจรปิด” ที่หลายคนเรียกกันมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง
ทั้งนี้ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ระบบกล้องวงจรปิด CCTV พัฒนาและเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถดูภาพบันทึกย้อนหลังหรือภาพเรียลไทม์โดยอาจมีแอปพลิเคชัน หรือระบบจัดการ CMS (Control Management System) ที่ช่วยเจ้าของสถานที่ สถานประกอบการ หรือแม้กระทั่งผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยสามารถเฝ้าสังเกตสถานการณ์ปัจจุบันแบบออนไลน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กล้อง CCTV ทำงานยังไง
ระบบกล้องวงจรปิด CCTV พื้นฐานมีหลักการทำงานที่ไม่ซับซ้อน โดยเริ่มต้นจากกล้องวงจรปิดรับสัญญาณภาพที่ปรากฏขึ้น จากนั้นสัญญาณภาพจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า และถูกส่งผ่านสายนำสัญญาณไปยังเครื่องบันทึกและจอมอนิเตอร์ ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่มีคนค่อยกำกับดูแลก็ตาม
รู้จัก 2 ระบบกล้องวงจรปิด CCTV
หลายคนอาจสงสัยว่ากล้อง CCTV มีกี่ประเภท ต้องบอกว่าปัจจุบันกล้องวงจรปิดสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ CCTV ระบบ Analog และ CCTV ระบบ IP โดยทั้งสองระบบมีการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกันดังนี้
1. กล้อง CCTV ระบบ Analog
กล้อง CCTV ระบบ Analog คือ ระบบดั้งเดิมที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก โดยเป็นระบบที่ใช้งานสายเคเบิล(Coax Cable) ในการส่งสัญญาณภาพ โดยประโยชน์ของกล้อง CCTV ประเภทนี้ คือ ต้นทุนการติดตั้งที่ถูกกว่าระบบ IP สามารถติดตั้งเข้ากับสถานที่ได้ง่าย ทำงานเสถียร และใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิดได้หลายประเภท จึงเหมาะกับธุรกิจหรือผู้ที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากนี้กล้อง CCTV ระบบ Analog ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้จับภาพในความละเอียดที่สูงขึ้นจนใกล้เคียงกับกล้องวงจรปิดระบบ IP
อย่างไรก็ตาม กล้อง CCTV ระบบ Analog มีข้อเสียเปรียบหลัก คือ อาจถูกรบกวนสัญญาณได้ง่าย ทั้งจากภายนอก และสัญญาณจากกล้องวงจรปิด CCTV อื่นๆ ในระบบเดียวกัน อีกทั้งไม่มีการเข้ารหัสของข้อมูล จึงเสี่ยงต่อการถูกแฮ็กอีกด้วย
2. กล้อง CCTV ระบบ IP
กล้องวงจรปิด CCTV ระบบ IP หรือ Internet Protocol มีหลักการทำงานคล้ายกับระบบ Analog แต่สามารถส่งสัญญาณภาพผ่านสาย v หรือ Wi-Fi ซึ่งเป็นสัญญาณรูปแบบ Digital ส่งผลให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูงและคมชัด เนื่องจากมีสัญญารบกวนน้อยกว่า นอกจากนี้ กล้องวงจรปิด IP ยุคใหม่ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเพิ่มเติมมากมาย เช่น การสำรองข้อมูลภาพบนคลาวด์เพื่อป้องกันการสูญหาย ไปจนถึงกล้องวงจรปิดที่มีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ภาพเหตุการณ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ด้วยความสามารถและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้กล้องวงจรปิด IP มีต้นทุนสูงตามไปด้วย โดยเฉลี่ยอาจสูงกว่าระบบ Analog มากพอสมควร อีกทั้งมีระบบการทำงานที่เฉพาะตัว จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง และอาจไม่สามารถใช้งานข้ามยี่ห้อได้
ประโยชน์ของกล้อง CCTV

ระบบกล้องวงจรปิด CCTV มีประโยชน์ต่อการรักษาความปลอดภัยสถานที่ในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะสถานประกอบการ โรงเรียน หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งข้อดีหลักของกล้อง CCTV ได้แก่
- ลดความเสี่ยงในการตรวจตราพื้นที่ – ประโยชน์ของกล้อง CCTV อันดับแรก คือ ใช้งานเพื่อเฝ้าสังเกตความปลอดภัยของพื้นที่ โดยที่มนุษย์หรือเจ้าหน้าที่รปภ. ไม่จำเป็นไปตรวจตราเอง โดยเฉพาะในบริเวณอับสายตาผู้คน หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เปรียบเสมือนมีผู้เฝ้ายามตลอด 24 ชั่วโมง
- บันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ – โดยสามารถนำภาพบันทึกเหล่านี้ไปตรวจสอบย้อนหลัง หรือใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
ยกตัวอย่างเช่น ร้านจำหน่ายเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูง สามารถใช้กล้อง CCTV เพื่อสอดส่องความปลอดภัยในเวลากลางคืนขณะร้านปิดว่า บริเวณหน้าร้านและหลังร้านมีความเคลื่อนไหวหรือมีบุคคลน่าสงสัยมาวนเวียนหรือไม่ เพื่อให้สามารถวางมาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีหากมีการบุกรุกเกิดขึ้น
ในอีกกรณีหนึ่ง คือการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในพื้นที่เก็บของมีค่า ที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนเข้า-ออก หากพบว่าเก็บของมีค่าเกิดสูญหาย ก็จะสามารถดูภาพบันทึกย้อนหลัง เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ค้นหาผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ สถานที่ที่มีผู้คนเข้า-ออก แต่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น โรงเรียน ที่เสี่ยงต่อการมีบุคคลแอบอ้างมาสร้างความเสียหาย และทำให้ผู้ปกครองขาดความเชื่อมั่นในโรงเรียน ซึ่งหากวางระบบกล้องวงจรปิด CCTV ผนวกกับควบคุมการเข้าออกพื้นที่ และการตรวจตราของรปภ. ที่รัดกุม จะช่วยให้สถานศึกษา บุคลากร และนักเรียนมั่นใจในความปลอดภัยได้มากขึ้น
ปลอดภัยมากกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี AI CCTV
ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้กับกล้อง CCTV เพื่อยกระดับความปลอดภัยขึ้นอีกขั้น โดย AI CCTV สามารถตรวจจับและแยกแยะวัตถุ คนหรือสัตว์ออก ภายในเวลาไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังจดจำใบหน้าบุคคลได้หลากหลาย ตรวจจับการบุกรุกหรือความผิดปกติต่างๆ ได้รวดเร็ว อีกทั้งสามารถสื่อสารกับระบบจัดการ CMS เพื่อแจ้งเตือนหน่วยรักษาความปลอดภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทันท่วงที ซึ่ง LIV-24 ก็ได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัยเช่นกัน
รู้จักระบบกล้อง CCTV LIV-24 มอบความปลอดภัย อุ่นใจมากยิ่งขึ้น
ภายใต้ LIV-24 Solution ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีการนำระบบ IoT (Internet of Things) เข้ามาพัฒนาฟังก์ชันความปลอดภัยด้านต่างๆ เราได้พัฒนาระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ AI CCTV Analytic เพื่อยกระดับความปลอดภัยสถานที่ ทั้งรอบรั้วโครงการบ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า รวมไปถึงโรงพยาบาล โรงแรม และสถานประกอบการต่างๆ
โดยมีฟีเจอร์เด่น ได้แก่
- ตรวจสอบความเคลื่อนไหว แม้สิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ หรือจุดอับต่างๆ
- สามารถแยกแยะระหว่างบุคคล สัตว์ และสิ่งของได้อย่างแม่นยำ
- ทำงานภายใต้ระบบ NVR เชื่อมต่อข้อมูลกับพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ (Cloud Storage) เข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ตและมีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ภาพจากกล้องไม่สูญหายหรือถูกทำลาย
- แจ้งเตือนแบบ Real-Time ผ่าน Command Centre ที่ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนรปภ. หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยกระดับความปลอดภัยให้สูงยิ่งขึ้น

LIV-24 ผู้นำโซลูชันความปลอดภัยครบวงจร ยกระดับประสิทธิภาพให้ธุรกิจคุณ
เพราะในบางครั้ง การมีกล้องวงจรปิดอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ LIV-24 มอบโซลูชันความปลอดภัยช่วยจัดการความเสี่ยงของธุรกิจคุณผ่านการผสานงานระหว่างผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์หลากหลายธุรกิจทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด อาคารเพื่อการพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ท โชวร์รูม ไปจนถึงคลังเก็บสินค้า และอื่นๆ
โดย LIV-24 ประสานเทคโนโลยีมากมายเพื่อช่วยยกระดับปลอดภัยแบบครบวงจร สามารถออกแบบให้เหมาะได้กับทุกพื้นที่ ทำงานตลอด 24/7 ช่วยลด Human Error เช่น
- AI CCTV Analytic และ Motion Sensor – กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์ ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
- Digital Fence – เซนเซอร์ตรวจจับความผิดปกติรอบรั้วของพื้นที่ แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวตามแนวรั้ว
- Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ.
- Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
- Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลอดล็อกประตูและ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้
- Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตุการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้ง LIV-24 ยังพัฒนาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากลอย่าง IoT Management System ใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ command centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้ทำให้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทีมช่างประจำโครงการเข้าตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่