Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

การรักษาความปลอดภัยอาคารและทรัพย์สินจำเป็นต้องพัฒนาให้ทันสมัยเสมอ เพื่อป้องกันภัยอย่างครอบคลุม โดย Biometric หรือ “ไบโอเมตริกซ์” คือ หนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการระบุตัวตนและรับรองความถูกต้องของบุคคล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้ Biometric บนสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า การยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ หรือการทำ e-KYC ทั้งนี้ Biometric ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาความปลอดภัยอาคารและสถานที่ต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยไปอีกระดับ 

ในวันนี้ LIV-24 ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Biometric Authentication ในบริบทของการรักษาความปลอดภัยสถานที่ว่า Biometric คืออะไร มีอะไรบ้าง แล้วช่วยยกระดับความปลอดภัยได้อย่างไร

Biometric คืออะไร

Biometric คือ “ข้อมูลชีวภาพ” หรือลักษณะทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา โครงสร้างใบหน้า หรือแม้แต่เสียง ซึ่งลักษณะทางกายภาพเหล่านี้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ และมีความปลอดภัยมากกว่าระบบรหัสผ่าน (Password) ในอดีต  Biometric Authentication จึงถูกนำมาใช้เป็นวิธีการยืนยันตัวตนในการเข้าถึงอุปกรณ์ ข้อมูล และสถานที่ต่างๆ

โดยการทำงานของระบบ Biometric จะเริ่มจากการเก็บข้อมูลชีวภาพของบุคคลเข้าสู่ระบบ จากนั้นเมื่อมีการขอเข้าใช้งาน ระบบจะทำการเปรียบเทียบข้อมูลชีวภาพที่ได้รับกับข้อมูลในฐานข้อมูล และจะอนุญาตให้เข้าถึงเมื่อข้อมูลทั้งสองชุดตรงกัน

Biometric นำมาใช้งานในด้านใดบ้าง

ด้วยคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และยากต่อการปลอมแปลง Biometric Authentication จึงถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายด้าน เช่น

  • การควบคุมและการรักษาความปลอดภัยในองค์กร

คือ การจำกัดสิทธิในการเข้า-ออกพื้นที่ หรือเขตหวงห้ามที่มีเฉพาะพนักงานบางคนเท่านั้นที่เข้าถึงได้ รวมไปถึงการตรวจสอบการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเวลาเริ่ม-เลิกงาน ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถดึงข้อมูลมาประเมินและวิเคราะห์ได้อย่างสะดวก

  • การใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย

เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลที่มีความอ่อนไหว หรือข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ด้วยการจำกัดการเข้าถึง ในขณะเดียวกัน ก็สามารถป้องกันการโจรกรรมข้อมูลได้ด้วยการนำ Biometric มาเป็นปัจจัยในการยืนยันสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication: MFA)

  • การใช้งานของสถาบันทางการเงิน

เพื่อลดโอกาสในการปลอมแปลง ฉ้อโกง หรือการทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและการทำธุรกรรม ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม โดยปัจจุบันมีทั้งการยืนยันตัวตนผ่าน e-KYC, NDID ไปจนถึงการทำ Digital ID สำหรับทำธุรกรรมออนไลน์กับทั้งภาครัฐและเอกชน

  • การใช้งานร่วมกับงานทะเบียนราษฎร์

ใช้เป็นการยืนยันตัวบุคคลในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว พร้อมเชื่อมข้อมูลผ่านเครือข่าย ลดการกรอกข้อมูลแบบแมนนวล ซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดได้

Biometric มีอะไรบ้าง

เทคโนโลยี Biometric ที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยอาคารและสถานที่ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละประเภทมีจุดเด่นและการประยุกต์ใช้งานที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งประเภทการยืนยันตัวตนด้วย Biometrics ได้ 4 รูปแบบ ดังนี้ 

1. การสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Recognition)

Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

ลายนิ้วมือ เป็นลักษณะทางชีวภาพที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูง จากการศึกษาพบว่าโอกาสที่จะมีลายนิ้วมือเหมือนกันมีเพียง 1 คู่ในประชากร 600 ล้านคนในระยะเวลา 300 ปี การสแกนลายนิ้วมือจึงนิยมใช้ในการควบคุมการเข้าถึงพื้นที่สำคัญ เช่น ประตูอาคาร โรงงาน ห้องเซิร์ฟเวอร์ และห้องนิรภัย รวมถึงใช้ในการบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน 

ข้อดีของการสแกนลายนิ้วมือ:

  • มีความแม่นยำสูง
  • ราคาเข้าถึงง่ายกว่า เมื่อเทียบกับระบบอื่น
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย
  • เหมาะกับการควบคุมการเข้าออกประตู ห้องสำคัญ
  • ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย 

2. การสแกนใบหน้า (Face Recognition) 

Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

ระบบสแกนใบหน้า (Face Scan) เป็นเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เนื่องจากใช้งานง่าย สะดวก และไม่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์โดยตรง นอกจากจะถูกนำมาใช้งานบนสมาร์ตโฟน แท็บเลต และยืนยันทำธุรกรรมทางการเงิน (NDID) แล้ว ยังนิยมใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยอาคาร การควบคุมการเข้าออก และการระบุตัวตนผู้มาติดต่ออีกด้วย

ข้อดีของการสแกนใบหน้า:

  • ใช้งานสะดวก ลดการสัมผัสอุปกรณ์
  • รองรับการตรวจสอบผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมกันได้ (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์)
  • สามารถทำงานร่วมกับกล้อง CCTV ได้ เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัย
  • เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ

3. การสแกนม่านตา (Iris Recognition)

Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

การสแกนม่านตาเป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูง เนื่องจากรายละเอียดของม่านตามีความซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล แม้เป็นฝาแฝดก็มีลวดลายม่านตาที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางและมีราคาสูง จึงมักใช้ในสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูงเป็นพิเศษ

ข้อดีของการสแกนม่านตา:

  • มีความแม่นยำสูงที่สุดในบรรดาระบบ Biometric
  • ยากต่อการปลอมแปลง
  • ข้อมูลม่านตาคงที่ตลอดชีวิต

4. การจดจำเสียง (Voice Recognition)

Biometric คืออะไร ช่วยในการรักษาความปลอดภัยอาคารอย่างไร

เทคโนโลยีการจดจำเสียงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยระบบจะวิเคราะห์คุณลักษณะของเสียง เช่น ความถี่ ความเข้ม และรูปแบบการพูด เพื่อระบุตัวตนของผู้พูด

ข้อดีของการจดจำเสียง:

  • ใช้งานได้ทางไกลผ่านระบบสื่อสาร
  • ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้อุปกรณ์
  • เหมาะกับผู้ใช้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Biometric แต่ละประเภทมีจุดเด่นและการประยุกต์ใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ Biometric ที่เหมาะสมกับสถานที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งลักษณะการใช้งาน ระดับความปลอดภัยที่ต้องการ จำนวนผู้ใช้งาน สภาพแวดล้อมในการติดตั้ง รวมถึงงบประมาณในการลงทุน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปัจจุบันมักนิยมใช้ Biometric หลายรูปแบบร่วมกัน (Multi-factor Authentication) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งการผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบวงจร จะช่วยให้การป้องกันและตรวจสอบการเข้าถึงพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การนำ Biometric มาใช้งานใน Access Control หนึ่งในโซลูชันความปลอดภัยจาก LIV-24

LIV-24 ได้พัฒนาระบบ Access Control ที่ผสานเทคโนโลยี Biometric อย่าง Face Scan เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อควบคุมการเข้า-ออกด้วยการสแกนใบหน้า ช่วยให้การจัดการสิทธิ์การเข้าถึงพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต

412900602 222536474224061 3176266033146041148 n

นอกจากนี้ยังมียังมีโซลูชันความปลอดภัยอื่นๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ อย่าง

  • AI CCTV Analytic และ Motion Sensorกล้อง CCTV อัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์ ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
  • License Plate Reader (LPR) – ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะที่ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทำงานร่วมกับประตูอัตโนมัติหรือไม้กั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การสแกนเข้าออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม
  • Digital Fence – เซนเซอร์ตรวจจับความผิดปกติรอบรั้วของพื้นที่ แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวตามแนวรั้ว
  • Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ. 
  • Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
  • Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตูและ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้ 
  • Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง
412892614 222536494224059 692930727798740080 n

ด้วยการผสานเทคโนโลยี Biometric เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร และ IoT Monitoring System  ที่ครอบคลุมระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน LIV-24 จึงสามารถตอบโจทย์การรักษาความปลอดภัยของอาคารและสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงงาน โรงพยาบาล โรงแรม หรือศูนย์การค้า สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้แม่นยำ ทำให้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทีมช่างประจำโครงการเข้าตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที

มั่นใจได้ว่า LIV-24 สามารถช่วยยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของธุรกิจและสถานที่

Activate you security

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่

แชร์ข่าวและบทความ
Rectangle 9437

ข่าวและบทความที่น่าสนใจ

To top
Interested in our solutions?
Feel Free to download
E-brochure

"*" indicates required fields

This field is for validation purposes and should be left unchanged.