การวางมาตรการความปลอดภัยของสถานที่ โดยเฉพาะการเข้า-ออก นับเป็นหนึ่งจุดที่ต้องหมั่นตรวจสอบ และควบคุมอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันเหตุอันไม่คาดฝัน เช่น กรณีบุคคลภายนอกบุกรุกพื้นที่หรือการโจรกรรม ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ดังนั้นระบบความปลอดภัยอย่าง Access Control จึงเป็นระบบที่สำคัญอย่างมากต่ออาคารพาณิชย์ โรงงาน โครงการบ้านจัดสรรและคอนโด รวมถึงสถานประกอบการอื่นๆ
มาร่วมทำความรู้จัก Access Control System ว่าเป็นระบบแบบไหน มีข้อดีอะไร แล้วเทคโนโลยีระบบ Access Control จาก LIV-24 ให้ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าอย่างไร
Access Control คืออะไร ?
Access Control คือ ระบบควบคุมการเข้าออกพื้นที่ต่างๆ โดยกำหนดสิทธิให้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยอาจเป็นการจำกัดการเข้าถึงเขตพื้นที่ ห้องเก็บเอกสาร ห้อง server สำคัญที่ใช้ควบคุมเครื่องจักร หรือแม้แต่ห้องอุปกรณ์ต่างๆ ในอาคารที่มีความสำคัญ เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายในที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงหรือบุคคลภายนอกก็ตาม ทั้งนี้ Access Control ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการเข้าถึงสถานที่ แต่ยังใช้ในการเข้าถึงข้อมูลหรือระบบต่างๆ ภายในองค์กรอีกด้วย
หากเปรียบเทียบการติดตั้ง Access Control แบบง่ายๆ ก็พูดได้ว่า คล้ายกับการล็อกแม่กุญแจ แต่เป็นการล็อกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น บัตร Mifare หรือ Proximity Card ไปจนถึงระบบ Biometrics อย่างการสแกนใบหน้า (Face Scan) หรือลายนิ้วมือ (Finger Print) เป็นต้น
ระบบ Access Control มีอะไรบ้าง
โดยทั่วไป สามารถแบ่ง Access Control ออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. Discretionary Access Control (DAC)
DAC เป็นการควบคุมการเข้าถึงที่เจ้าของเป็นผู้ควบคุมอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ เจ้าของสถานที่หรือผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้รายอื่นได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าห้องต่างๆ ภายในสถานที่หรือการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ
ด้วยการมีเจ้าของเป็นผู้ควบคุมอย่างสมบูรณ์ ทำให้ระบบ DAC เป็น Access Control รูปแบบที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และตอบรับความต้องการของผู้ใช้จำนวนมากได้ จึงเหมาะกับอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงเรียน คลังสินค้า หรือสถานประกอบการที่มีผู้คนเข้าออกเป็นจำนวนมาก
2. Mandatory Access Control (MAC)
ระบบ MAC เป็นรูปแบบที่อาศัยการควบคุมแบบส่วนกลาง โดยกำหนดการเข้าถึงตามนโยบาย หรือตามระดับชั้นความปลอดภัยที่วางไว้ ซึ่งควบคุมโดยผู้ให้บริการระบบ ไม่ใช่เจ้าของสถานที่ การเข้าถึงพื้นที่จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เหมาะกับองค์กรหรือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่าง สถานที่ราชการต่างๆ
3. Role-based Access Control (RBAC)
ระบบ RBAC มีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงตามบทบาทของผู้ใช้งานแต่ละรายว่าสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนใดได้บ้างไม่ได้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น นาย A สามารถเข้าอาคารหมายเลข 1 ได้และสามารถเรียกลิฟต์ไปยังชั้นของตนเอง แต่ไม่สามารถเข้าอาคารหมายเลข 2 กลับกัน นาง B สามารถเข้าอาคารหมายเลข 2 ได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปยังอาคารหมายเลข 1 นั่นเอง ส่วนนาย C ที่เป็นฝ่ายนิติบุคคลสามารถเข้าถึงอาคารทั้งสองได้
จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า Access Control แบบ RBAC นั้นเป็นรูปแบบที่หลายคนคุ้นเคย อีกทั้งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจอย่างอาคารพาณิชย์หรือคอนโดให้เช่า ที่สามารถกำหนดสิทธิ์เข้าถึงของผู้เช่าใหม่ได้ทันทีหลังทำสัญญาเช่า พร้อมกับเพิกถอนสิทธิ์เข้าถึงของผู้เช่ารายเก่า
4. Attribute-Based Access Control (ABAC)
Attribute-Based Access Control หรือ Rule-Based Access Control เป็นระบบที่มีการกำหนด “กฎ” การเข้าถึงพื้นที่หรือข้อมูล เช่น เจ้าหน้าที่รปภ. มี Access Control ประตูห้อง Server แต่มีเพียงหัวหน้าฝ่าย IT เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการแก้ไขระบบหรือข้อมูลที่บันทึกเอาไว้ เป็นต้น
เมื่อมี Access Control เจ้าของสถานที่ รวมถึงผู้ทำธุรกิจก็จะสามารถอุ่นใจ วางใจในความปลอดภัยของสถานที่ได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงของพื้นที่ต่างๆ ให้น้อยลง เช่น ห้อง Server ห้องเก็บทรัพย์สิน หรือเขตพื้นที่ส่วนตัว
ข้อดีของ Access Control
จากรูปแบบระบบ Access Control ข้างต้น จะเห็นได้ว่าข้อดีของ Access Control นั้นมีหลายประการ ทั้งต่อธุรกิจ ทรัพย์สิน และที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยต่อผู้ใช้สถานที่ ซึ่งสามารถสรุปข้อดีได้ดังนี้
1.ยกระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าหากเทียบกับการล็อกกุญแจ Access Control System สามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาควบคุมการเข้า-ออก พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบและจัดการผู้ที่สามารถเข้าถึงบางเขตหรือบางห้องภายในสถานที่ได้ง่าย มีการบันทึกข้อมูลการเข้าออก ซึ่งช่วยลดและป้องกันการโจรกรรมหรือการบุกรุกได้ดีกว่าเดิม
2.สะดวกสบายต่อการจัดการผู้เข้า-ออกพื้นที่
เจ้าของสถานที่สามารถหมดกังวลในการจัดการพื้นที่ได้ ไม่ต้องคอยมองหาว่า ใครเป็นผู้ถือกุญแจ หรือมีใครเข้า-ออกบ้างภายในหนึ่งวัน โดย Access Control สามารถกำหนดสิทธิ์ได้ตั้งแต่ต้นหรือปรับเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สะดวก
3.ยืดหยุ่น สามารถติดตั้ง/ปรับแต่งให้เข้ากับสถานที่
ระบบ Access Control ในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นสูง จึงปรับแต่งให้เข้ากับรูปแบบสถานที่ หรือการควบคุมการเข้าถึงได้ตามต้องการ
4.ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีการลงทุนเพื่อติดตั้ง Access Control แต่ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว รวมถึงเป็นเกราะป้องกันการละเมิดความปลอดภัยที่อาจประเมินค่าไม่ได้
ยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วยระบบ Access Control ล้ำสมัยจาก LIV-24
LIV-24 มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งใน LIV-24 Solution ก็คือระบบ Access Control ที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น ควบคุมและคัดกรอง วางมาตรการจัดการคนเข้า-ออกตั้งแต่ด่านแรก

- Face Scan – ควบคุมบุคคลที่เข้า-ออกพื้นที่ด้วยระบบสแกนใบหน้า สำหรับการเปิดประตูเข้าตึก เขตพื้นที่ หรือห้องสำคัญ ป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ ลดความเสี่ยง ป้องกันความเสียหายภายใน
- License Plate Reader (LPR) – ควบคุมบุคคลการเข้า-ออกยานพาหนะ เช่น ไม้กั้น ประตูมอเตอร์ หรือประตูอัตโนมัติ ด้วยระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะ มั่นใจได้ว่ายานพาหนะที่เข้าในพื้นที่ได้รับอนุญาตแล้ว หมดกังวลเรื่องอุปกรณ์เข้าพื้นที่ (การ์ด, บลูทูธ) หาย แบตเตอรี่หมด หรือถูกขโมยโดยผู้ไม่หวังดี ทั้งยังมีการนำ AI มาใช้อ่านป้ายทะเบียน (License Plate Recognition) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ในการสแกนเข้าออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบเดิมอย่างระบบ Keycard, RFID ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- LIV-24 Visitor Management System – ยกระดับระบบ VMS แบบเดิมให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบจัดการเก็บข้อมูลผู้มาติดต่อแบบดิจิตอล ที่มาพร้อมระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า (Pre-Register) เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ต้องแลกบัตรประชาชน สามารถตรวจสอบตัวตนได้ง่าย รวมถึงมีระบบคำนวณค่าจอดรถที่เชื่อมต่อกับระบบ Online Payment
LIV-24 ผู้นำโซลูชันความปลอดภัยครบวงจร ยกระดับประสิทธิภาพให้ธุรกิจคุณ
แม้จะมี Access Control ที่รัดกุม แต่อาจมีบางจุดที่ไม่ครอบคลุม ดังนั้น LIV-24 จึงมอบโซลูชันความปลอดภัยช่วยจัดการความเสี่ยงของธุรกิจคุณผ่านการผสานงานระหว่างผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์หลากหลายธุรกิจทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด อาคารเพื่อการพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ต โชว์รูม ไปจนถึงคลังเก็บสินค้า และอื่นๆ

โดย LIV-24 ประสานเทคโนโลยีมากมายเพื่อช่วยยกระดับปลอดภัยแบบครบวงจร สามารถออกแบบให้เหมาะได้กับทุกพื้นที่ ทำงานตลอด 24/7 ช่วยลด Human Error เช่น
- AI CCTV Analytic และ Motion Sensor – กล้อง CCTV อัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์ ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
- Digital Fence – เซนเซอร์ตรวจจับความผิดปกติรอบรั้วของพื้นที่ แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเคลื่อนไหวตามแนวรั้ว
- Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ.
- Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
- Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตูและ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้
- Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง
อีกทั้ง LIV-24 ยังพัฒนาเทคโนโลยี IoT Management System ใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ Command Centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่