อัคคีภัยคืออะไร รู้สาเหตุและวิธีการป้องกันไฟไหม้ในสถานที่

อัคคีภัยคืออะไร รู้สาเหตุและวิธีการป้องกันไฟไหม้ในสถานที่

[LIV 24] SEO JAN C02 1 1200x628

เหตุการณ์อัคคีภัย สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ลุกลามอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง ทั้งยังสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (DPM) ได้เผยสถิติสาธารณภัยทั่วประเทศปี 2567 ว่า อัคคีภัยมีสัดส่วนสูงถึง 50% ของสาธารณภัยทั้งหมดในประเทศ ดังนั้น การเรียนรู้สาเหตุและวิธีการป้องกันสาเหตุไฟไหม้ จึงเป็นสิ่งสำคัญให้การป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

อัคคีภัยคืออะไร

อัคคีภัย คือ เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ขาดการควบคุม ซึ่งสามารถลุกลามและก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยองค์ประกอบสำคัญของการเกิดไฟประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เชื้อเพลิง ความร้อน และออกซิเจน หากองค์ปัจจัยเหล่านี้รวมตัวกันในสภาวะที่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดการลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเหตุอัคคีภัยในที่สุด

นอกจากนี้ เพลิงไหม้ยังเป็นเหตุการณ์ที่ควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่บริเวณโดยรอบมีเชื้อเพลิง เช่น ใบไม้และกิ่งไม้ หรือวัตถุไวไฟ เป็นต้น และหากมีกระแสลม เพลิงไหม้ก็จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจไม่สามารถทำให้สงบได้ในเวลาอันสั้นจนก่อให้เกิดความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้

สาเหตุการเกิดอัคคีภัยมีอะไรบ้าง

สาเหตุการเกิดอัคคีภัยนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความประมาทหรือความผิดพลาดของมนุษย์ อุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้กระทั่งความบังเอิญ รวมไปถึงปัจจัยทางธรรมชาติ โดยสาเหตุไฟไหม้ที่พบได้บ่อยๆ มีดังนี้

  • อุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้อง

สาเหตุที่อุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้องจนกลายเป็นสาเหตุไฟไหม้ มักเกิดจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม อย่างการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เป็นเวลานานจนเกิดความร้อนสูง (Overheat) เสียบปลั๊กไฟหลายตัวในเต้ารับเดียวกันจนเกิดการโอเวอร์โหลด (Overload) และสาเหตุสำคัญอย่างการใช้สายไฟที่ชำรุดหรือไม่ได้มาตรฐานมอก. ซึ่งอาจนำไปสู่การลัดวงจรและเกิดประกายไฟได้ในที่สุด

  • ไฟเตาแก๊สลุกลาม

ไฟไหม้เตาแก๊สนับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยตามครัวเรือน ซึ่งอาจเกิดจากการเปิดเตาแก๊สทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล หรือปิดวาล์วแก๊สไม่สนิททำให้แก๊สรั่วไหล และเมื่อสัมผัสกับประกายไฟ ก็จะส่งผลให้เกิดไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว

  • วัสดุไวไฟ

วัสดุไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ทินเนอร์ หรือสารเคมีต่างๆ ถือเป็นของอันตรายที่ควรจัดเก็บเอาไว้ให้มิดชิด หรือตามคำแนะนำบนฉลากของผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันการชำรุดหรือรั่วไหล

  • ภัยธรรมชาติ

ปัจจัยจากธรรมชาติก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญ เช่น ฟ้าผ่าที่อาจก่อให้เกิดไฟไหม้ในอาคาร สภาพอากาศแห้งแล้งที่เอื้อต่อการลุกลามของไฟป่า หรือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดไฟ

นอกจากสาเหตุข้างต้น อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการเกิดอัคคีภัย  คือ การกระทำของมนุษย์ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ เช่น การทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับสนิทจุดธูปเทียนบูชาทิ้งไว้ หรือในกรณีร้ายแรงอย่างการลักลอบวางเพลิงและก่อวินาศกรรม 

อัคคีภัยมีกี่ประเภท

ประเภทของไฟจะถูกแบ่งออกตามแหล่งกำเนิด โดยมีทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

1. ไฟคลาส A 

ไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่มีลักษณะเป็นของแข็งติดไฟ เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก ยาง การดับไฟประเภทนี้ทำได้โดยการลดความร้อน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้น้ำหรือสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อน

2. ไฟคลาส B

เป็นไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่มีลักษณะเป็นของเหลวไวไฟหรือก๊าซ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ทินเนอร์ แอลกอฮอล์ จาระบี และก๊าซหุงต้ม การดับไฟประเภทนี้ต้องกำจัดออกซิเจน โดยมักนิยมใช้ผงเคมีแห้งหรือโฟมคลุมผิวเชื้อเพลิง

3. ไฟคลาส C 

คือ ไฟที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ หม้อแปลง สายไฟ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ การดับไฟประเภทนี้ต้องใช้สารดับเพลิงที่ไม่นำไฟฟ้า ที่สำคัญคือ ห้ามใช้น้ำหรือโฟมเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูดได้

4. ไฟคลาส D

เป็นไฟที่เกิดจากเชื้อเพลิงที่เป็นโลหะติดไฟ เช่น แมกนีเซียม โซเดียม โพแทสเซียม ไทเทเนียม หรืออะลูมิเนียมผง ซึ่งต้องใช้สารเคมีดับเพลิงพิเศษเฉพาะ (Dry Powder) ในการดับเพลิง เนื่องจากไฟประเภทนี้มีความร้อนสูงและมักลุกไหม้รุนแรง

5. ไฟคลาส K

เป็นไฟที่เกิดจากน้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ เนย ไขมัน มักพบในครัวของร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานประกอบการด้านอาหาร การดับไฟประเภทนี้ต้องใช้สารเคมีเฉพาะที่มีคุณสมบัติในการทำปฏิกิริยากับน้ำมันร้อนเพื่อสร้างฟิล์มคลุมผิวและตัดออกซิเจน

อันตรายจากไฟไหม้มีอะไรบ้าง

[LIV 24] SEO JAN C02 2 1200x628

อัคคีภัยไม่ได้นำมาซึ่งความร้อนและการเผาไหม้เท่านั้น แต่สถานการณ์ไฟไหม้ยังก่อให้เกิดอันตรายในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในอาคารสูงหรือพื้นที่ปิด ซึ่งอันตรายข้อแรกคือ ความมืด ที่ระบบไฟส่องสว่างอาจถูกตัดการทำงานจากเพลิงไหม้ ส่งผลให้การหาทางออกหรือขอความช่วยเหลือยากลำบากมากขึ้น ความอันตรายอย่างก็คือ แก๊สพิษและควันที่เกิดจากการเผาไหม้ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ที่ทำให้วิงเวียนศีรษะ ระบบหายใจและหัวใจทำงานติดขัดจนช็อกหมดสติ และนำไปสู่การเสียชีวิต

วิธีการป้องกันและระงับอัคคีภัย

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า อัคคีภัยนั้นนำมาซึ่งอันตรายร้ายแรง ดังนั้นการป้องกันและระงับอัคคีภัย จึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษาเอาไว้ โดยเฉพาะการป้องกันก่อนเกิดไฟไหม้ โดยสามารถปฏิบัติเบื้องต้นได้ดังนี้

1. สร้างการตระหนักรู้ถึงสาเหตุและหมั่นกำจัดปัจจัยเสี่ยง

การป้องกันภัยที่ดี เริ่มต้นจากการสร้างความตระหนักรู้และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ เพื่อป้องกันและลดโอกาสเกิดอัคคีภัย การจัดการสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากไฟ รวมถึงเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ประกอบกับตรวจสอบสภาพถังดับเพลิงอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟ เช่น การใช้เตาแก๊สประกอบอาหาร

2. ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบป้องกันอัคคีภัย

การติดตั้ง ระบบรักษาความปลอดภัยและระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เช่น Smoke Detector และ Heat Detector ป้อมปราการด่านแรกในการรู้ทันเหตุการไฟไหม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อบุคคลและทรัพย์สิน อีกทั้งยังรวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์อย่าง สปริงเกอร์ดับเพลิง และถังดับเพลิงตามจุดต่างๆ อย่างเหมาะสม 

นอกจากนี้ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์สิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของอัคคีภัย ควรติดตั้งกล้องวงจร CCTV และสอดส่องพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจเข้าก่อให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ

การเรียนรู้และเข้าใจถึงสาเหตุ ประเภท และวิธีการป้องกันอย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ เพื่อลดและป้องกันอัคคีภัย ซึ่งการลงทุนในระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้อาคาร พนักงาน และผู้มาติดต่ออีกด้วย

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการรักษาความปลอดภัย การเลือกใช้ระบบป้องกันอัคคีภัยที่ทันสมัยจึงเป็นการลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเหตุนี้ LIV-24 จึงพัฒนาโซลูชันอย่าง FireEdge IoT ที่ตอบโจทย์การป้องกันอัคคีภัยอย่างครบวงจร ช่วยให้คุณอุ่นใจและมั่นใจในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

FIRE EDGE IoT โซลูชันป้องกันอัคคีภัยอัจฉริยะจาก LIV-24

LIV-24 ได้พัฒนา IoT Monitoring System ระบบอัจฉริยะตรวจจับการทำงานของทุกระบบในสถานที่ โดยมีโซลูชัน Fire Protection ที่ปลอดภัยกว่าระบบ Smoke Detector และ Fire Alarm ทั่วไป 

477200530 497998420011197 6688502096794421209 n

โดย FIRE EDGE IoT มีฟีเจอร์เด่น ดังนี้

  • รู้สถานะการทำงานของอุปกรณ์เตือนภัยว่าทำงานปกติ ไม่พลาดทุกเหตุการณ์อันตราย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่า
  • ประหยัดพื้นที่ และค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง 
  • ทำงานร่วมกับกล้อง CCTV และมีฟีเจอร์ AI CCTV Analytic คอยตรวจจับควันที่มองไม่เห็นได้แม่นยำ แม้ในจุดอับสายตามนุษย์
  • เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับ LIV-24 Command Centre เสมือนมีผู้ช่วยในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ผิดปกติตลอด 24 ชม. ในทุกวัน พร้อมแจ้งเตือนทันทีที่เกิดเหตุ และประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวดเร็ว เข้าแก้ไขได้ฉับไว

นอกจากนี้  IoT Monitoring System  ยังครอบคลุมไปถึงระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน  ซึ่งใช้ได้กับอาคารเพื่อการพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ต โชว์รูม ไปจนถึงคลังเก็บสินค้า และอื่นๆ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้แม่นยำ ทำให้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทีมช่างประจำโครงการเข้าตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที

ด้วยโซลูชันความปลอดภัยที่ครอบคลุมจาก LIV-24 คุณสามารถมั่นใจได้ว่าอาคารหรือสถานที่ของคุณจะได้รับการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันอัคคีภัยหรือภัยคุกคามอื่นๆ ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของธุรกิจและสถานที่

Activate you security

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่

แชร์ข่าวและบทความ
Rectangle 9437

ข่าวและบทความที่น่าสนใจ

To top
Interested in our solutions?
Feel Free to download
E-brochure

"*" indicates required fields

This field is for validation purposes and should be left unchanged.