ระบบความปลอดภัยโรงงานควรรู้ เพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน

ระบบความปลอดภัยโรงงานควรรู้ เพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน

ระบบความปลอดภัยโรงงาน คือ หนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ไม่เพียงปกป้องชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว หรืออีกนัยหนึ่งคือ ความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงานคือสภาวะที่ปราศจากอันตราย ความผิดปกติ หรือการบาดเจ็บใดๆ ระหว่างการทำงานที่อาจส่งผลกระทบต่อพนักงาน ทรัพย์สิน หรือกระบวนการผลิต จากสถิติที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่าอัคคีภัยเป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในโรงงานตลอดปี 2567 ซึ่งเกิดขึ้นราว 107 ครั้ง คิดเป็น 75% ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงงานทั้งหมด โดยเกิดมากที่สุดในงานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ การหลอมด้วยความร้อนสูง และพื้นที่อับอากาศ

การลงทุนในระบบความปลอดภัยโรงงานที่ครบวงจรจึงไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียทรัพย์สิน ผลผลิต และบุคลากรที่มีค่า รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดำเนินการแก้ไขเหตุฉุกเฉินอีกด้วย

สาเหตุอุบัติเหตุในโรงงานที่พบได้บ่อย

อุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น

  • สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นอันตราย 
  • การรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน 
  • การทำงานที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนหรือใช้เครื่องมือไม่ถูกวิธี 
  • การไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสมต่อสภาพการทำงาน
  • สภาพร่างกายหรือจิตใจที่ไม่พร้อม
  • ความเร่งรีบในการทำงาน จนก่อให้เกิดข้อผิดพลาดที่นำไปสู่อุบัติเหตุ

ดังนั้นการวางมาตรการและระบบความปลอดภัยโรงงานอันครอบคลุมจึงจำเป็นอย่างมาก เพื่อรักษาทรัพย์สินและชีวิตภายใรโรงงาน

มาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานที่ต้องคำนึงถึง

ระบบความปลอดภัยโรงงานควรรู้ เพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน

มาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานในประเทศไทยอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ซึ่งกำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลสถานที่ทำงานให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ โดยมาตรฐานความปลอดภัยครอบคลุมหลายด้านที่โรงงานต้องปฏิบัติตาม ดังนี้

1. มาตรฐานด้านความร้อน

ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยในโรงงาน โดยต้องมีการควบคุมดังนี้

  • อุณหภูมิภายในโรงงานต้องไม่ส่งผลให้พนักงานมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
  • ต้องจัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ป้องกันความร้อนที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
  • ต้องมีมาตรการจัดการกับความร้อนฉุกเฉินอย่างทันท่วงที
  • หากพนักงานมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส ต้องจัดให้หยุดพักชั่วคราวจนกว่าอุณหภูมิร่างกายจะกลับสู่ภาวะปกติ
  • ต้องมีการติดประกาศแจ้งเตือนในจุดที่มีความร้อนสูงจนเสี่ยงอันตราย
  • สำหรับพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 45 องศาเซลเซียส ต้องกำหนดมาตรการการทำงานที่ชัดเจน เช่น การแต่งกายรัดกุม การสวมหมวกนิรภัย หรือการสวมหน้ากากกันความร้อน เป็นต้น

2. มาตรฐานด้านแสงสว่าง

แสงสว่างที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยและความราบรื่นในการทำงาน โดยมีข้อกำหนดดังนี้

  • สำหรับงานที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดสูง เช่น การบด การขนย้าย หรือการบรรจุ แสงสว่างต้องมีความเข้มมากกว่า 50 Lux
  • พื้นที่เก็บวัสดุ โกดัง คลังสินค้า ต้องมีแสงสว่างที่มีความเข้มมากกว่า 50 Lux
  • งานที่ต้องใช้ความละเอียดเล็กน้อย เช่น การสีข้าว การประกอบชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์อย่างง่าย ควรติดตั้งแสงสว่างที่มีความเข้มมากกว่า 100 Lux
  • งานที่ต้องใช้ความละเอียดปานกลาง เช่น การประกอบชิ้นส่วนภาชนะ การเย็บผ้า ต้องมีแสงสว่างความเข้มมากกว่า 200 Lux
  • งานที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เช่น การทดสอบผลิตภัณฑ์ การซ่อมแซมเครื่องจักร หรือการกลึงแต่งโลหะ แสงสว่างต้องมีความเข้มมากกว่า 300 Lux
  • งานที่ต้องใช้ความละเอียดสูงมากเป็นพิเศษ เช่น การเย็บผ้าสีมืดทึบ การประกอบชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็ก การเจียระไนเพชร แสงสว่างในพื้นที่ต้องมีความเข้มมากกว่า 1,000 Lux
  • ส่วนพื้นที่ภายนอกอาคาร ทางเดิน และถนน แสงสว่างต้องมีความเข้มมากกว่า 20 Lux

3. มาตรฐานด้านเสียง

เสียงดังเกินมาตรฐานสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านการได้ยินและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ จึงมีการกำหนดมาตรฐานเอาไว้ดังนี้

  • พนักงานที่ทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน – ระดับเสียงที่ได้รับติดต่อกันต้องไม่เกิน 91 เดซิเบล
  • พนักงานที่ทำงาน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน – ระดับเสียงที่ได้รับติดต่อกันต้องไม่เกิน 90 เดซิเบล
  • พนักงานที่ทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน – ระดับเสียงที่ได้รับติดต่อกันต้องไม่เกิน 80 เดซิเบล
  • ระดับเสียงโดยรวมภายในสถานประกอบการต้องไม่เกิน 140 เดซิเบล

4. มาตรฐานด้านสารเคมีและอนุภาค

การควบคุมสารเคมีและอนุภาคในอากาศเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของพนักงาน

  • ความเข้มข้นของสารเคมีในบรรยากาศต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าพนักงานจะทำงานในระยะเวลาใดก็ตาม
  • บริเวณที่มีความเข้มข้นของสารเคมีเกินมาตรฐาน ไม่เหมาะสมต่อการทำงานของพนักงาน
  • ปริมาณฝุ่นและแร่ปะปนในอากาศต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

เพื่อให้การออกแบบระบบความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐาน เจ้าของโรงงานหรือธุรกิจสามารถขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาความปลอดภัยโรงงาน ซึ่งสามารถชี้แจ้งถึงเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้คำแนะนำในการปรับปรุงหรือติดตั้งระบบต่างๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างครอบคลุม

รวมระบบความปลอดภัยที่ทุกโรงงานควรมี

ระบบความปลอดภัยโรงงานควรรู้ เพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน

การติดตั้งระบบความปลอดภัยโรงงานที่ครบวงจรช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีระบบความปลอดภัยที่ควรมี ดังนี้

1. ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ (BAS) 

ระบบ BAS หรือ Building Automation System เป็นระบบอัจฉริยะที่ควบคุมและบริหารจัดการระบบต่างๆ ภายในอาคารและโรงงานแบบองค์รวม ผ่านการเชื่อมต่อระบบต่างๆ ภายในอาคารเข้าด้วยกันบนเครือข่าย (Network) และอุปกรณ์ IoT ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า แสงสว่าง หรือการปรับอากาศ แม้อาจไม่ได้เป็นระบบความปลอดภัยโรงงานโดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งระบบสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยโดยรวม

2. ระบบกล้อง CCTV

กล้อง CCTV ถือเป็นระบบพื้นฐานสำคัญในการรักษาความปลอดภัยที่ช่วยตรวจสอบพื้นที่สำคัญ เช่น โซนการผลิต คลังสินค้า จุดทางเข้าออก และโซนกระจายสินค้า ช่วยในการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะช่วยในการเฝ้าสังเกตการณ์พนักงานในโรงงานแล้ว ยังช่วยในการเฝ้าระวังในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  และวิเคราะห์เพื่อป้องกันในอนาคต อีกทั้งยังลดความจำเป็นในการใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนมาก

3. ระบบ Access Control

Access Control หรือระบบควบคุมการเข้าออกพื้นที่ เป็นระบบที่กำหนดสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นในการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ได้ โดยสามารถจำกัดการเข้าถึงได้ตั้งแต่ระดับห้องเดียวไปจนถึงทั้งโครงการ ทำให้สะดวกสบายต่อการจัดการผู้เข้าออกพื้นที่ เนื่องจากสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้า-ออกได้ตั้งแต่ต้น ทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถติดตั้งหรือปรับแต่งให้เข้ากับแต่ละสถานที่ได้ 

4. ระบบ Fire Alarm

Fire Alarm หรือระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย เป็นระบบความปลอดภัยโรงงานสำคัญในการป้องกันและระงับอัคคีภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุที่พบบ่อยที่สุดในโรงงาน โดยระบบดังกล่าวประกอบไปด้วยอุปกรณ์ตรวจจับควันที่เชื่อมต่อกับระบบแจ้งเตือนเพลิงไหม้ ซึ่งอาจมีการเชื่อมต่อกับระบบกล้อง CCTV อัจฉริยะและระบบ Access Control เพื่อคอยตรวจจับควันไฟ และปลดล็อกทางหนีไฟโดยอัตโนมัติ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ช่วยลดเวลาในการอพยพและการตอบสนองของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมีนัยสำคัญ 

5. ระบบ Visitor Management System

Visitor Management System (VMS) เป็นระบบจัดการข้อมูลผู้มาติดต่อแบบดิจิทัลที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพการคัดกรองผู้ติดต่อมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบนี้ช่วยควบคุมและคัดกรองบุคคลภายนอกตั้งแต่ด่านแรก ลดภาระงานเอกสาร และประสานข้อมูลระหว่างผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของพื้นที่ ผู้มาติดต่อ และผู้ตรวจสอบการเข้าออกได้อย่างราบรื่น กล่าวคือ 

  • ลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า (Pre-Register) – อำนวยความสะดวกให้ผู้มาติดต่อสามารถลงทะเบียนก่อนเดินทางมา ลดเวลาในการรอคอย ป้องกันผู้แอบอ้างที่ไม่พึงประสงค์
  • ไม่ต้องแลกบัตรประชาชน – ลดความยุ่งยากและความเสี่ยงจากการสูญหายของเอกสารสำคัญ
  • ตรวจสอบตัวตนสะดวก – สามารถตรวจสอบตัวตนของผู้มาติดต่อได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  • เก็บประวัติผู้มาติดต่อ – บันทึกข้อมูลการเข้าออกของผู้มาติดต่อแต่ละราย เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและการวิเคราะห์

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีการพัฒนาระบบด้วยระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะ  หรือ License Plate Reader (LPR) ซึ่งช่วยในการควบคุมการเข้าออกยานพาหนะ โดยทำงานร่วมกับระบบไม้กั้นรถยนต์ หรือประตูมอเตอร์ ลดความกังวลเรื่องการระบุและบันทึกตัวตนของผู้มาติดต่อสถานที่ ช่วยให้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รปภ. ราบรื่นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัยโรงงานเป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการดำเนินงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ การลงทุนในระบบความปลอดภัยที่ครบวงจรและทันสมัยไม่เพียงช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายทั้งป้องกันการสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรแก่พนักงาน ลูกค้า และสาธารณะ

LIV-24: โซลูชันความปลอดภัยครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการธุรกิจ

LIV-24 เป็นหนึ่งในผู้นำและผู้คิดค้นเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะครบวงจร ที่ช่วยจัดการความเสี่ยงพื้นที่ต่างๆ ผ่านการผสานงานระหว่างผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์หลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด อาคารเพื่อการพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ท โชว์รูม คลังเก็บสินค้า และอื่นๆ 

พร้อมช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ติดตั้ง เฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง 

image
  • AI CCTV Analytic และ Motion Sensorกล้อง CCTV อัจฉริยะ ตรวจจับความผิดปกติด้วย AI ทั้งบุคคลน่าสงสัย สัตว์ ไปจนถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างควันไฟ เพื่อแจ้งเตือนระงับเหตุได้ทันท่วงที
  • Visitor Management System – ระบบควบคุมการเข้า-ออกโครงการ สามารถบันทึกข้อมูล อ่านป้ายทะเบียนรถ ระบุตัวตนผู้เข้ามาในพื้นที่ได้ หมดกังวลเรื่องผู้บุกรุก
  • Access Control – ควบคุมบุคคลเข้าออกพื้นที่ ด้วยระบบ Face Scan สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกประตู และ LRP (License Plate Reader) อ่านป้ายทะเบียนก่อนเข้าสถานที่ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ห้องห้องเดียวหรือทั้งโครงการก็ได้
  • License Plate Reader (LPR) – ระบบอ่านป้ายทะเบียนอัจฉริยะที่ช่วยควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ ทำงานร่วมกับประตูอัตโนมัติหรือไม้กั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การสแกนเข้าออกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม
  • Fall Detection – ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีคนหกล้มหรือเกิดอุบัติเหตุตกจากที่สูงภายในโรงงานแบบ Real-Time  ช่วยป้องกันอุบัติเหตุในที่ที่คนมองไม่เห็น ช่วยให้ทั้งธุรกิจและชีวิตของพนักงานปลอดภัย
  • Real Time Guard Tour – คอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของรปภ. 
  • Command Centre – ศูนย์ควบคุมส่วนกลางของ LIV-24 เฝ้าสังเกตการณ์แบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ไม่มีหยุดพัก
iot
iot

อีกทั้ง LIV-24 ยังพัฒนาเทคโนโลยี IoT Monitoring System ใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแสดงผลการทำงานของอุปกรณ์ในระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟต์โดยสาร คุณภาพอากาศ และการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น หากเชื่อมต่อกับ Command Centre แล้วหากพบเหตุผิดปกติ สามารถระบุเหตุการณ์และจุดเกิดเหตุได้สามารถประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขได้ทันที ลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ป้องกันได้แม่นยำ ยกระดับธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของทุกระบบ 

Activate you security

ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24 (ลิฟ-24)
เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ปกป้อง ปลอดภัย ผสานพลัง AI และมนุษย์ ตลอด 24/7
ให้ LIV-24 ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยง สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณโดยเฉพาะ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่

แชร์ข่าวและบทความ
Rectangle 9437

ข่าวและบทความที่น่าสนใจ

To top
Interested in our solutions?
Feel Free to download
E-brochure

"*" indicates required fields

This field is for validation purposes and should be left unchanged.