LIV-24 เผย Smart Tech Solution ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการได้ถึง 20% รุกหนักยกระดับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ซอฟต์พาวเวอร์ไทยเติบโตสูง มูลค่าธุรกิจทะยานสู่ 5 แสนล้านภายในปี 70
บริษัท LIV-24 จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและเสริมประสิทธิภาพธุรกิจ ประกาศความสำเร็จในการขยายธุรกิจสู่ภาคอุตสาหกรรม

พร้อมเปิดตัว Smart Industrial Tech Solutions ที่ช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการได้ถึง 20% พร้อมสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมแข่งขันในระดับนานาชาติ นำร่องอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยร่วมหารือสภาหอการค้าไทย พัฒนา Future Food Industry เมกะเทรนด์ในปัจจุบัน และมีโอกาสเติบโตสูง คาดว่ามูลค่าธุรกิจในปี 2570 จะทะลุ 5 แสนล้านบาท
เส้นทางความสำเร็จที่ก้าวกระโดดของ LIV-24
บริษัท ลิฟ-24 จำกัด (LIV-24) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 โดยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ภายใต้บริษัทลูกในเครือแสนสิริ ด้วยเป้าหมายในการนำ Smart Tech มาใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
ชูโรงด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI CCTV Analytics, Visitor Management System (VMS) และ Internet of Things (IoT) ซึ่งจุดเด่นคือ Detect ข้อมูลได้แบบ Real Time เพื่อรายงานผลไปยังศูนย์ Command Centre ที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มจากให้บริการเทคโนโลยีความปลอดภัยในโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งของแสนสิริ และโครงการที่พลัสฯ ดูแล และขยายสู่ลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ ต่อเนื่อง อาทิ โตโยต้าขอนแก่น, Asset Five, Pre Built, โรงเรียนสาธิตพัฒนา, สัมมากร, ธนาคารกรุงไทย เป็นต้น

ประสบการณ์การดูแลโครงการต่าง ๆ กว่า 180 โครงการ มูลค่าทรัพย์สินกว่า 300,000 ล้านบาท และด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ผสานความเชี่ยวชาญของทีมงานและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ผ่านมา LIV-24 สามารถเข้าระงับเหตุได้รวดเร็วเฉลี่ยใน 5 นาที และมีเคสอันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สินเป็น 0 เคส
ขยายผลความสำเร็จจากภาคอสังหาฯ เดินหน้ารุกภาคอุตสาหกรรมไทยเต็มสูบ

จาก LIV-24 ขยายผลสำเร็จจากภาคอสังหาฯ มุ่งสู่การเป็นธุรกิจ เมื่อปี 2567 Spin-off ภายใต้ชื่อ บริษัท LIV-24 จำกัด พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจไปสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย LIV-24 ได้ร่วมมือกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งภาคเอกชน ในการนำ Smart Industrial Tech เข้ามาส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อเป็นตัวช่วยในการลดต้นทุนและเสริมประสิทธิภาพผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไทย
โชว์เคสความสำเร็จ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมไทยด้วย AI Smart Tech
LIV-24 เดินหน้ารุกภาคอุตสาหกรรม และมีลูกค้าที่ได้รับความไว้วางใจ จากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์, อุตสาหกรรมการบิน, อุตสาหกรรมเสื้อผ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
- BGC Glass ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในประเทศไทย
LIV-24 ได้ออกแบบโซลูชันให้เหมาะสมกับธุรกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC

และทำการติดตั้งระบบ AI CCTV Analytics ให้กับโรงงานของ BG ทั้งในพื้นที่สำนักงานและคลังเก็บสินค้า เพื่อยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมทั้งระบบ Real Time Guard Tour ติดตามคุณภาพการทำงานของพนักงานรักษาความปลอดภัยในการเดินตรวจพื้นที่ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยหากระบบตรวจพบความผิดปกติ เอไอจะรายงานผลอัตโนมัติแบบ real time ไปยังศูนย์ควบคุมส่วนกลาง (Command Centre) ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ LIV-24 เฝ้าระวังเหตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานการเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยใช้ระยะเวลาเฉลี่ยเพียง 5 นาทีเท่านั้น
- Bangkok Aviation Fuel Services (BAFS) ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างครบวงจรในประเทศไทย
LIV-24 เข้าไปติดตั้งระบบ “LIV-24 NEXUS” ซึ่งเป็น Smart CCTV System ให้กับโรงงานของ BAFS ธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยาน (Energy Logistic Provider) เป็นการวางโครงสร้างการทำงานของ CCTV แบบแยกส่วน (Distributed Smart Architecture)

ยกระดับจากแนวคิดเดิมที่กล้องเสียเพียงจุดเดียวอาจกระทบระบบรักษาความปลอดภัยทั้งเครือข่าย ช่วยลดต้นทุนความเสียหายจากการซ่อมแซมได้ถึง 70% และลดระยะเวลาในการซ่อมแซมได้สูงสุดถึง 75% เมื่อเทียบกับระบบเดิม นอกจากนี้ มีการใช้ระบบซอฟต์แวร์รวมศูนย์อัจฉริยะในการจัดการระบบกล้อง CCTV จากหลากหลายสาขา มารวมที่ศูนย์เดียวกัน พร้อมทั้งติดตั้งระบบ AI CCTV Analytics ที่ช่วยตรวจจับเหตุผิดปกติแบบ Real-Time ด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ BAFS ที่ต้องดูกล้อง CCTV ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากธุรกิจดำเนินการตลอด 365 วัน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- V.T. Garment ผู้ผลิตเสื้อผ้าส่งออกรายใหญ่ของประเทศไทย
LIV-24 ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานในโรงงาน VT Garment ด้วยเทคโนโลยี IoT โดยติดตั้งระบบมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์เพื่อเฝ้าระวังระบบไฟฟ้าทั่วทั้งโรงงาน หากเกิดไฟดับหรือไฟตก ระบบจะแจ้งเตือนทันที ช่วยให้ทีมงานสามารถเข้าจัดการและซ่อมแซมได้โดยทันที ธุรกิจก็สามารถเดินต่อเนื่องได้โดยไม่มีสะดุด พร้อมทั้งติดตั้งระบบในการมอนิเตอร์ สัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ (Fire Alarm) ป้องกันกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ระบบจะแจ้งเตือนทันที ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดความชื้นภายในห้อง server ช่วยแก้ปัญหากรณีเกิดน้ำรั่วซึมในห้อง การนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ จะช่วยลดผลกระทบที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ และสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน
ย้ำวิสัยทัศน์พัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมไทยสู่สากล ร่วมหารือภาครัฐ นำร่องชู Smart Tech ยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร ผลักดันสู่อุตสาหกรรม “อาหารแห่งอนาคต (Future Food)”
ล่าสุด LIV-24 ได้เข้าร่วมหารือสภาหอการค้าไทย ร่วมกับทีมอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ภายใต้การนำของ ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ถึงการนำ Smart Tech มาใช้ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร วางเป้าหมายร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรม “อาหารแห่งอนาคต (Future Food)” ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ในปัจจุบันและมีความเติบโตสูง
คาดว่ามูลค่าในปี 2570 จะทะลุ 500,000 ล้านบาท เพื่อให้อุตสาหกรรมอาหารไทย สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จำเป็นต้องมีมาตรฐานที่เข้มงวด ที่สำคัญคือเน้นคุณภาพ และความปลอดภัย ซึ่ง LIV-24 เอง สามารถนำเทคโนโลยี Smart Solutions มาใช้เพื่อสร้างมาตรฐานในทุกกระบวนการขั้นตอน ตั้งแต่ต้น-ยันปลายน้ำ คือตั้งแต่เก็บเกี่ยวผลผลิต ขั้นตอนการผลิต ไปจนส่งถึงมือผู้บริโภค เพื่อความโปร่งใส และตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน อาทิ
- ระบบ AI ตรวจจับการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) แบบ Real-time: เพิ่มความมั่นใจสูงสุดให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง ด้วยระบบ AI ของ LIV-24 ที่สามารถตรวจจับการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หมวกคลุมผม ถุงมือ หน้ากากอนามัย ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนและเพิ่มสุขอนามัยในสายการผลิต หากไม่สวมใส่ตามกฎ จะเกิดการแจ้งเตือนทันที
- ระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Data Privacy): ในโลกของ Future Food ระบบควบคุมสิทธิ์ การเข้าถึงข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการจัดการและจัดเก็บข้อมูลละเอียดอ่อน (Sensitive Data) เช่น Biometrics ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า หรือ ม่านตา ที่ อาจนำไปใช้ในการปลอมแปลงตัวตนเพื่อแก้ไขข้อมูลในระบบ ทำให้การตรวจสอบแหล่งที่มาของ อาหารผิดพลาด การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นหัวใจสำคัญเพื่อสร้างความ เชื่อมั่น ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และส่งเสริมให้ผู้บริโภคพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใน อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตได้อย่างเต็มที่
LIV-24 ก้าวข้ามขีดจำกัด มู่งสู่เป้ารายได้โต 140%
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ LIV-24 ในปี 2568 คือการมุ่งขยายบริการไปยังภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และสภาอุตสาหกรรมไทยในปีที่ผ่านมา LIV-24 ตั้งเป้าขยายการเติบโตต่อไปยังภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอนาคต

พร้อมนำ Industrial Tech มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์แต่ละภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะทั้งใหญ่ กลาง เล็ก เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย กล้องอัจฉริยะ ระบบบริหารจัดการเครื่องจักร ระบบขนส่ง และการจัดการพลังงานและน้ำเสีย ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลาที่เสียไปจากความเสียหาย เพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนพลังงาน และยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชุมชน พร้อมลดต้นทุนรวมได้ถึง 20% เพื่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาช่วยผลักดันภาคอุตสาหกรรม

LIV-24 เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่องทุกปี โดยปีที่ผ่านมา ทำรายได้รวม 116.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 78% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 65.4 ล้านบาท และปี 2568 นี้ ตั้งเป้ารายได้ 280 ล้านบาทโตขึ้นอีก 140%